บทความคัดลอกจาก http://verycatsound.com/5stepstowritemusic/ ขอขอบคุณไว้ ณ. ที่นี้ด้วยครับ เนื่องจาก ผมกลัวต้นฉบับหาย เลยเอามาเก็บไว้ที่บล็อกผมด้วยครับ
เคล็ดลับจาก Berklee ตอนที่ 1
ในฐานะที่ผมเป็นนักเรียนดนตรีที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ และเพิ่งได้เริ่ม รับแต่งเพลง เป็นงานหลัก ข้อมูลหลายๆอย่างเกี่ยวกับการ แต่งเพลง ทำเพลง ในหัวผมนั้นมันก็ล้น พัวพันกันมั่วเหมือนห้องรกๆห้องหนึ่งที่ต้องการ การจัดระเบียบ บวกกับที่อยากเขียน blog แชร์ความรู้และเทคนิคที่ได้เก็บเกี่ยวมาจาก Berklee เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อใครได้บ้างผมจึงตัดสินใจจะเขียนบล็อกเกี่ยวกับการแต่งเพลงขึ้นมา (อยากทบทวนตัวเองไปด้วยนะครับ เพราะก็ยังไม่เก่ง)
ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่ “อยาก”หัดทำเพลง การเขียนเพลงนั้นอาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งเริ่มเล่นดนตรี หรือว่า นักเรียนที่เพิ่งเริ่มหัดเขียนเพลงอาจมีคำถามในใจว่า “เริ่มยังไงดี” มันมีรูปแบบไหม? ใน blog นี้ผมจึงอยากแชร์ความรู้ความเข้าใจของผมด้วย มีอะไรติชมชี้แนะได้นะครับ ผมจะได้เก็บมาพัฒนาตัวเองด้วย
“เตรียมตัว เตรียมใจ เริ่ม!”
ทุกๆครั้งเวลาผมจะเริ่มสร้างสรรค์อะไรสักอย่าง ผมมักจะมีปัญหากับการเริ่มต้นเสมอ เช่นการเริ่มประโยคแรกของบทความ การเริ่มวางจุดแรกของเพลง การไม่กล้าเริ่มจนไม่ได้เริ่ม(อ้าว) ผมเลยได้สรุปรูปแบบการเริ่มต้นไว้หลายๆแบบให้เลือกว่าเริ่มแบบไหนดี เป็น ไกด์ให้ลองดูนะครับว่าอยากเริ่มวิธีไหน
PS.ก่อนจะเริ่มควรมีคอมพิวเตอร์หรือกระดาษปากกาอยุ่ใกล้ๆตัว (เครื่องดนตรีสักชิ้นก็ดีที่เป็น Melodic Instrument และก็อะไรก็ได้อัดเสียงได้เช่น iPhone iPad เพราะว่า melody ในหัวนั้นหลุดลอยไปได้ง่ายมากถ้าไม่ได้อัดไว้
เริ่มยังไงได้บ้าง
5 ขั้นตอนการเริ่ม แต่งเพลงโดยพื้นฐาน
1. เริ่มจาก melody
วิธีนี้เบสิคสุดแต่ว่าไม่ง่ายสำหรับมือใหม่เพราะว่า ต้องหาคอร์ดมารองรับเมโลดี้ให้พอเหมาะ (หลังจากหาคีย์) วิธีนี้อาจเหมาะสำหรับคนที่เริ่มชำนาญในเครื่องดนตรีของตัวเองแล้ว และก็ร้องเพลง ฮัมเพลงออกมาได้ไม่เพี้ยน (ลืมบอกว่า สกิลการร้องเพลงสำคัญในการแต่งเพลงมาก) แต่เคสนี้อาจจะเจอได้บ่อยสำหรับคนที่ รับแต่งเพลง แล้วลูกค้าอยากให้ใช้ melody เดิมไปเรียบเรียงใหม่
2. เริ่มจาก เนื้อร้อง
วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีนึงที่คนนิยมใช้กันเพราะว่าจะได้ให้เนื้อหา เป็นจุดนำทางดนตรีไปในทิศทางที่เรื่องราวดำเนินไป ถ้ายังแบ่งวรรคแบ่งประโยคในรูปแบบเนื้อร้องไม่ได้ ก็แนะนำให้ร่างเป็นเรียงความมาก่อนเลยก็ได้ เขียนบ่น หรือเขียนกลอนก็ยังได้ แล้วค่อยเลือกคำที่ชอบ หาประโยคที่แทนสิ่งที่เราอยากจะสื่อที่สุด แล้วค่อยเรียบเรียงตัดให้กระชับ (ใน entry หลังๆจะลงลึกเรื่องการเขียนเนื้อร้องอีกที
3. Melody + เนื้อร้อง พร้อมกัน
อันนี้สำหรับผมต้องใช้ประสบการณ์ระดับนึง ตัวผมเองก็ทำได้หลังจากเขียนเพลงไปแล้วสองสามเพลง เพราะต้องค่อนข้างใช้ความเข้าใจเรื่องอักขระ การลงคำ การสัมผัสของคำ และ melody วิธีนี้สำหรับบางคนอาจไม่ยากและเป็นธรรมชาติกว่า จริงๆสำหรับผม วิธีนี้มันเป็นวิธีในอุดมคติ มันคือภาพการแต่งเพลงสมัยเด็กๆของผม(ตอนที่ยังไม่ได้เรียนดนตรี) ว่าเพลงควรจะแต่งแบบนี้
4. เริ่มจาก Harmony (คอร์ด)
ในช่วงนึงของชีวิตผมชอบวิธีนี้มากๆ เพราะตอนที่เริ่มเรียน jazz harmony ผมชอบเขียนคอร์ดแล้วจินตนาการเสียงเอาเอง อารมณ์เหมือนวางโครงเพลงไว้ก่อน ให้รู้ว่าคอร์ดเดินยังงี้นะ แล้วค่อยลงเรื่องเมโลดี้กับ เนื้อร้องทีหลัง ซึ่งวิธีนี้ทำให้ผมทำงานเป็นระบบและรวดเร็วมาก
5. Harmony + Melody + เนื้อร้อง หรือ Harmony + Melody
ทางที่เรียกได้ว่า รวมหลายๆสกิลไว้ด้วยกัน ลองดูนะครับ สำหรับผู้เริ่มต้นถ้าอยากลองก็ลองได้แต่ถ้าเริ่มรู้สึกเครียดหรือยาก ลำบากก็ถอยกลับไปดูวิธีอื่นก่อนได้ครับ
สำหรับคนที่บอกว่าการเขียนเพลงนั้นไม่มีรูปแบบนั้น มันก็จริงครึ่งไม่จริงครึ่งครับ (ไม่งั้นมันจะมีหลักสูตรแบบได้รับการรับรองมีปริญญาออกมาได้ยังไง?) รูปแบบมันมีครับ แต่ว่าไม่จำเป็นต้องผูกติดหรือยึดติด เพราะถ้าเราไม่ได้เรียน tonal harmony (หรือทฤษฏีดนตรีคลาสสิค) การเขียนเพลง Pop ก็ค่อนข้างมีอิสระในการทำงาน (ขอให้ไม่เพี้ยน ไม่น่าเกลียด ฟังแล้วลื่นไหล)
ผมค่อนข้างเชื่อว่า รูปแบบหรือ methods, guidelines เหล่านี้ค่อนข้างมีประโยชน์ในช่วงเริ่มต้น มันจะผลักให้เราเริ่มให้เราลอง พอเราชำนาญแล้วก็ค่อยประยุกต์ใช้หรือทิ้งรูปแบบอะไรก็แล้วแต่ตามถนัด
ผมขอออกตัวก่อนเลยว่า สำหรับตัวผมก็ยังไม่ใช่คนเก่งอะไร เป็นเหมือนเด็กจบใหม่ไฟแรงมากกว่าที่กำลังสู้สร้างสรรค์ผลงานเหมือนกัน ตอนนี้ก็ รับแต่งเพลง และมาเป็นส่วนหนึ่งของ verycatsound.com เต็มตัวครับ ไว้จะเอามาให้ติชมครับ blog ต่อไปเราจะมาเขียนเรื่อง “เคล็ด(ไม่)ลับการสร้างสรรค์ไอเดีย บริหารความคิด และการหาแรงบันดาลใจในการ แต่งเพลง” กันนะครับ จะเริ่มเข้มข้นขึ้นและเข้าสู่การเขียนเพลงไปมากกว่านี้อีกหน่อย 
ขอให้เกิดประโยชน์แก่ทุกคนครับ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักดนตรีมือสมัครเล่น มืออาชีพ หรือคนที่เพิ่งเริ่ม รับแต่งเพลง ใหม่ๆเหมือนผม สู้ๆครับ happy writing !