การแปรรูปเห็ดนางฟ้า

The privatization mushrooms fairy.

การแปรรูปเห็ดนางฟ้า

1.การทำแหนมเห็ด

เครื่องปรุง

เห็ดนางฟ้า ฉีกฝอยนึ่งสุก 1 กิโลกรัม

เนื้อหมูสับละเอียด 200 กรัม

กระเทียบสับ 200 กรัม

ข้าวสวย 80 กรัม

เกลือป่น 18 กรัม

ซีอิ้วขาว 10 กรัม

วิธีทำ

เลือกเห็ดที่กำลังจะบาน ล้างเห็ดให้สะอาด ตัดเอาส่วนที่เป็นโคนออก ให้เหลือแต่ดอกเก็ด แล้วฉีกเป็นฝอยชิ้นเล็ก ๆ เหมือนหนังหมูที่หั่นใส่แหนม แล้วนำเห็ดไปนึ่ง 5- 10 นาที นำมาผึ่งให้เย็นแล้วบีบคั่นน้ำออก

นำเนื้อหมูสับละเอียด ลวกน้ำร้อนให้พอสุก ใส่ตะแกรงปล่อยให้สะเด็ดน้ำแล้วนำไปคลุกกับเห็ดที่ผึ่งไว้ กระเทียมสับละเอียด ข้าวสวย เกลือ ซีอิ้วขาว นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันในภาชนะปากกว้าง เช่น กะละมัง หรือหม้อ โยการบีบ นวด คั้น จนเหนียว ปั้นได้ ปั้นเป็นก้อน ก้อนละ 100 กรัม (1ขีด) แล้วนำมาห่อด้วยถุงพลาสติก หรือใบตองกล้วย

วิธีบรรจุแหนมเห็ด

ใช้ถุงพลาสติกใส ขนาด 4×6 นิ้ว ห่อแหนมเห็ดเข้ามุมเป็นสามเหลี่ยม ใช้ยางรัดให้แน่น จะได้แหนมเห็ดตามต้องการ

ใช้ใบตองกล้วยสดห่อแบบข้าวต้มผัด ใช้ยางรัด 2-3 เปาะ เก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ 25-30 องศาเซลเซียส ประมาณ 2 วัน แหนมจะเปรี้ยวรับทานได้

ถ้าต้องทำเป็น “แหนมเจ”ไม่ต้องใส่เนื้อหมูสับ

2.การทำเห็ดสามรส

เครื่องปรุง

เห็ดนางฟ้าฉีกเส้นฝอย 2 กิโลกรัม

ซีอิ้วขาว ? ถ้วยตวง

น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

เกลือป่นเล็กน้อย ชิมพอดี

วิธีทำ

ฉีกเห็ดนางฟ้าเป็นเส้นฝอย ตามแนวยาวของเห็ดยาวประมาณ1-/1 เซนติเมตร ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งในร่มจนสะเด็ด น้ำ

นำซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และเกลือ ลงในกะละมัง สะแตนเลสคนให้ละลายเข้ากัน

นำเห็ดที่ผึ่งไว้ ใส่ลงไปครั้งละ 1 กำมือ คลุกเคล้าให้เข้ากันนำมาใส่ถุงผ้าแล้วบีบน้ำออก ถ้าบีบแรงเกินไปจะทำให้น้ำออกหมด ไม่เหลือรสชาติของเห็ดและเครื่องปรุง หรือหากบีบเบาเกินไปเห็ดจะเปียกแฉะเวลาทอดจะจะสุกช้าไม่นิ่ม จึงควรออกแรงให้พอดี

แล้วใส่เห็ดที่บีบน้ำออกพอดี ใส่กะด้งพักไว้

ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม ใช้ไฟค่อนข้างแรง เมื่อน้ำมันร้อนจัดนำเห็ดลงไปทอด หมั่นคนเพื่อไม่ให้เห็ดติดกระทะ กะให้สุกพอดี

นำเห็ดที่ลวกสุกแล้วเข้าเตาอบ อุณหภูมิประมาณ 100 องศาเซสเซียส ใช้เวลาประมาณ 3- 5 นาที นำออกมารับประทานเป็นอาหารว่างได้

การทำข้าวเกรียบเห็ด

เครื่องปรุง

เห็ดนางฟ้าบดละเอียด 150 กรัม

แป้งสาลี 65 กรัม

แป้งมันสำปะหลัง 500 กรัม

น้ำตาลทราย 28 กรัม

เกลือป่น 15 กรัม

พริกไทยป่น 13 กรัม

น้ำร้อน 250 ซีซี

น้ำปลา ? ช้อนโต๊ะ

กระเทียมบดละเอียด 30 กรัม

วิธีทำ

ร่อนแป้งมันสำปะหลังและแป้งสาลีมาผสมรวมให้เข้ากันแบ่งออกประมาณ 250 กรัม เติมน้ำร้อนนวดให้เข้ากัน

นำเห็ด เกลือ พริกไทยป่น กระเทียม และน้ำตาลทราย นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับที่นวดแล้ว นวดให้เข้ากันค่อย ๆ เติมแป้งส่วที่เหลือนวดให้เข้ากันกับส่วนผสมแล้วปั้นเป็นก้อนกลม วางเรียงในลังถึงที่ปูด้วยใบตองกล้วยนึ่งจนสุก อุณหภูมิประมาณ 90 องศาเซสเซียส ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นำมาเรียงใส่ถาดผึ่งให้เย็นแล้วเก็บเข้าตู้เย็น ทั้งไว้ 1 คืน นำออกมาทอกในน้ำมันร้อนกะว่าสุกเหลือกรอบ จัดใส่จาน นำมารับประทานได้รสชาติอร่อ

4.การทำเห็ดสรรค์

เครื่องปรุง

เห็ดนางฟ้า 2 กิโลกรัม

กระเทียม 50 กรัม

พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม

เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ

นำมันพืช(สำหรับทอด) 3 ถ้วยตวง

งาขาวคั่วสุก 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ฉีกเห็ดนางฟ้าเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสมอกัน ตากแดดให้แห้ง 1 แดด

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ไฟปานกลางใส่เห็ดปริมาณเรียงกันพอดีชั้นเดียวเต็มกระทะ ทอดสุกเหลืองพอดี กับเห็ดที่เดียว(อย่าคนจะทำให้เห็ดห่อตัว) ใช้ตะแกรงตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน

ตักน้ำมันออกจากกระทะเหลือไว้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียม พริกไทย เจียวให้เหลืองตักขึ้น

เอากระทะตั้งไฟอีกครั้ง ใส่น้ำตาลปี๊บ ซีอิ้วขาว เกลือ น้ำ คนให้น้ำตาลละลาย ลดไฟอ่นอๆ ชิมรสได้ตามต้องการ เอาเห็ดทอดใส่พายคนเบา ๆ ประมาณ 15 นาที เพื่อห้ำปรุงรสเกาะเห็ดได้ที่แล้ว ใส่กระเทียม พริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่งาขาวคั่วลงไปคลุกด้วย จะได้เห็ดนางฟ้าสวรรค์ตามต้องการ

(ถ้าทอดไฟอ่อนมากเห็ดจะอมน้ำมัน แต่ถ้าไฟร้อนมากเห็ดจะไหม้ ต้องสังเกตให้ไฟร้อนมากเห็ดจะไหม้ ต้องสังเกตให้ไฟร้อนพอดี)

5.การทำทอดมันเห็ดนางฟ้า

เครื่องปรุง

เห็ดนางฟ้าฉีกฝอย 1 กิโลกรัม

เนื้อปลาอินทรีย์สด 3 กิโลกรัม

พริกแกงเผ็ด 200 กรัม

น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม

ใบกระเพรา 100 กรัม

ถั่วฝักยาวหั่นเป็นแว่น 200 กรัม

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

นำปลาอินทรีย์มาขูดเอาเนื้อด้วยช้อนแล้วบดละเอียดใส่พริกแกงเผ็ด คลุกเคล้าให้เข้ากัน

เอาน้ำปลาคนกับน้ำตาลปี๊บแล้วนำเนื้อปลามาเคล้าให้เข้ากัน

ใส่เห็ดฉีกฝอย ใส่ใบกระเพรา และถั่วฝักยาวที่หั่นเป็นแว่น นวดคลุกเคล้าจนส่วนผสมเริ่มเหนียว

ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เท่าหัวแม่มือแล้วบีบให้แบนเล็กน้อย

นำไปทอดในกระทะด้วยไฟค่อนข้างร้อน จนสุกเหลืองน่ารับประทาน จัดใส่จานรองด้วยผักคะน้านำไปรับประทานได้

(ถ้าทอดไฟอ่อนจะอมน้ำมัน ถ้าไฟแรงเกินไปจะไหม้ก่อนสุก)

ข้อมูลจาก

http://www.ubn4.go.th/

Comments

comments